เลือกถังดักไขมันให้เหมาะสมกับที่พักอาศัย

หากพูดถึง ถังดักไขมัน หลายคนอาจจะคิดว่าใช้กับร้านอาหาร เพราะเป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่ร้านอาหารจำเป็นต้องมี แต่ในความเป็นจริงแล้ว ที่พักอาศัยก็มีความจำเป็นไม่น้อย ที่จะต้องติดตั้งถังดักไขมันไว้เช่นเดียวกัน ในบทความนี้ พี่ไทจึงจะพาไปหาคำตอบกันครับว่า ทำไมที่บ้านถึงต้องติดตั้งถังดักไขมัน และวิธีการเลือกถังดักไขมันให้เหมาะสมกับที่พักอาศัยของคุณ

ถังดักไขมัน เป็นอุปกรณ์ที่ต่อตรงกับท่อน้ำทิ้งภายในบ้าน ทำหน้าที่ช่วยดักจับไขมัน และดักจับเศษอาหารจากการล้างถ้วยชามภาชนะ และอุปกรณ์ประกอบอาหารต่าง ๆ โดยของเสียดังกล่าว จะถูกดักไว้ภายในถังดักไขมัน เพื่อไม่ให้ของเสียไหลปะปนไปยังท่อน้ำทิ้งสาธารณะนั่นเอง

ประเภทของถังดักไขมัน

แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ตามลักษณะการใช้งาน ดังต่อไปนี้

1. ถังดักไขมันแบบฝังดิน

ถังดักไขมันชนิดนี้จะติดตั้งอยู่ภายนอกตัวบ้าน เหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่กว้างขวางเพียงพอต่อการฝังถังดักไขมันไว้ใต้ดิน เช่น บ้านเดี่ยว บ้านที่มีอาณาบริเวณ อาคารสำนักงาน

ถังดักไขมัน (ใต้ดิน) DOS รุ่น G-TEK ความจุ 30 ลิตร สีดำ

รายละเอียดสินค้า คลิก

2. ถังดักไขมันแบบตั้งพื้น

เป็นถังดักไขมันที่มีรูปแบบการติดตั้งตรงข้ามกับถังดักไขมันแบบฝังดินทุกประการ โดยติดตั้งอยู่ภายในตัวบ้าน เหมาะสำหรับที่พักอาศัยที่มีพื้นที่ใช้สอยน้อย เช่น อพาร์ทเม้นท์ คอนโด ทาวน์เฮาส์ ร้านอาหาร

ถังดักไขมัน (ตั้งพื้น) D-SU15 DOS รุ่น GT-06/BK-15L ความจุ 15 ลิตร สีดำ

รายละเอียดสินค้า คลิก

ทำไมถึงต้องติดตั้งถังดักไขมัน

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าน้ำที่ผ่านการใช้งานแล้ว หรือน้ำเสียจากภายในบ้านจะถูกระบายออกทางท่อน้ำทิ้ง ซึ่งน้ำเสียเหล่านี้จะมีคราบสกปรกหรือคราบไขมันสะสมปนอยู่ด้วย ถ้าเราปล่อยให้ของเสียที่มีไขมันลงสู่ท่อระบายน้ำสาธารณะอาจทำให้เกิดปัญหาการอุดตันตามมา รวมไปถึงเรื่องความสะอาด และผลกระทบโดยตรงต่อสิ่งแวดล้อม โดยของเสียประเภทไขมัน หากปล่อยทิ้งสะสมไว้เกิน 1 เดือน ไขมันจะเริ่มจับตัวเป็นก้อน ยิ่งนานวันชั้นไขมันเหล่านี้จะเริ่มหนาขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การไหลผ่านของน้ำเป็นไปได้ยาก และเกิดการอุดตันในที่สุด

ซึ่งการอุดตันในที่นี้ไม่ได้ส่งผลแค่การระบายน้ำ แต่ยังส่งผลไปถึงเรื่องการเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคที่เกิดขึ้นจากไขมันอุดตันในท่อน้ำทิ้ง จนเกิดเป็นกลิ่นเหม็นหมักหมมจากน้ำเสียที่ค้างอยู่ภายในท่อ ซึ่งอาจย้อนกลับเข้ามาส่งกลิ่นเหม็นตามจุดระบายน้ำต่าง ๆ ภายในบ้านได้อีกด้วย

จากที่กล่าวมาข้างต้นนั้น จึงเป็นเหตุผลที่ แต่ละบ้านควรติดตั้งถังดักไขมันครับ

วิธีเลือกขนาดของถังดักไขมัน

ถังดักไขมันมีขนาดถังตั้งแต่ 15 - 140 ลิตร ให้เลือกใช้งาน ขั้นตอนการเลือกก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก แต่เราจำเป็นที่จะต้องทราบจำนวนผู้ที่พักอาศัยอยู่ภายในบ้านที่แน่นอนเสียก่อน เอาจำนวนเป็นที่ตั้งแล้วค่อยเลือกขนาดถังดักไขมันให้เหมาะสมกับจำนวนคน มีหลักการพิจารณาดังนี้

• หากมีผู้พักอาศัยอยู่ภายในบ้านประมาณ 1 - 5 คน ควรเลือกใช้ถังดักไขมันขนาด 15 ลิตรเป็นอย่างน้อย

• หากมีผู้พักอาศัยอยู่ภายในบ้านประมาณ 6 - 10 คน ควรเลือกใช้ถังดักไขมันขนาด 30 ลิตรเป็นอย่างน้อย

จะเห็นได้ว่าขนาดของถังดักไขมันสัมพันธ์กับจำนวนผู้อยู่อาศัย ถ้ามีผู้อยู่อาศัยจำนวนมากถังดักไขมันก็ต้องมีขนาดใหญ่ขึ้น ส่วนใครที่เปิดคาเฟ่หรือร้านอาหาร อาจจะต้องเฉลี่ยจากจำนวนผู้ใช้บริการต่อวัน และดูจากพื้นที่ในการติดตั้งเป็นหลัก

ส่วนประกอบ และการทำงานของถังดักไขมัน

ภายในถังดักไขมัน 1 ถัง มีส่วนประกอบอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 ส่วน และรูปแบบการทำงาน ดังนี้

• ตะแกรงดักเศษอาหาร เมื่อของเสียไหลเข้าสู่ถังดักไขมันจะผ่านตะแกรงดักเศษอาหารเป็นอันดับแรก ทำหน้าที่ดักจับเศษอาหารจากท่อน้ำเข้า เป็นตะแกรงตาถี่จึงสามารถดักเศษอาหารได้เป็นอย่างดี

• ช่องแยกไขมัน เมื่อน้ำจากท่อน้ำทิ้งภายในบ้านมารวมตัวกันภายในถังดังไขมัน น้ำกับไขมันจะทำการแยกตัวออกจากกันตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ โดยน้ำจะอยู่ด้านล่าง ไขมันจะลอยตัวอยู่ด้านบนเหนือน้ำ เนื่องจากไขมันมีน้ำหนักที่เบากว่าน้ำ

• ท่อระบายไขมัน เมื่อไขมันถูกแยกออกจากน้ำและสะสมอยู่ภายในถังในปริมาณที่มากขึ้น เราสามารถระบายไขมันออกทางท่อระบายไขมัน ระบายใส่ถุงดำหรือภาชนะที่เตรียมไว้ โดยเราสามารถนำไขมันที่ได้มาทำเป็นปุ๋ยหมักรดรอบโคนต้นไม้ หรือผสมกับดินใช้ในการปลูกต้นไม้หรือปลูกผัก

• ท่อระบายน้ำทิ้ง เมื่อดักไขมันและเศษอาหารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว น้ำก็จะถูกระบายออกผ่านท่อน้ำทิ้งลงสู่ท่อระบายน้ำสาธารณะนอกตัวบ้าน จบขั้นตอนการทำงานของถังดักไขมัน