เลือกเสื้อกันฝนให้เหมาะ ใส่คุ้มค่า และปลอดภัย

หลังจากผ่านหน้าร้อนอันร้อนระอุประเทศไทยก็เข้าสู่หน้าฝนอย่างเต็มตัว แม้จะเป็นฤดูที่ดูเฉอะแฉะไปบ้างแต่บางคนก็น่าจะชอบฤดูฝนมากกว่าฤดูร้อน แต่ถ้าหากฝนตกในช่วงเวลาที่เราต้องออกเดินทาง ในระหว่างการเดินทางไปทำงาน หรือบางคนอาจจำเป็นต้องทำงานกลางแจ้ง ช่วงเวลาที่ฝนกำลังตก เพราะฉะนั้นตัวช่วยดี ๆ อย่างเสื้อกันฝนจะกลายเป็นส่วนเติมเต็มสำคัญคอยช่วยปกป้องเสื้อผ้า และร่างกายจากความเปียกชื้น รวมไปถึงโรคต่าง ๆ ที่อาจมาพร้อมกับสายฝน ทำให้เราเกิดอาการไม่สบายตามมา

ดังนั้นในบทความนี้ พี่ไทจะชวนทุกคนมาทำความรู้จักกับเสื้อกันฝนแต่ละประเภท รวมไปถึงแนวทางในการเลือกเสื้อกันฝนให้ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด

ประเภทของเสื้อกันฝน

1. เสื้อกันฝนแบบใช้แล้วทิ้ง

เป็นเสื้อกันฝนแบบฉุกเฉินที่มักจะขายดีในช่วงฝนตกหนัก เพราะช่วงที่มีความต้องการสูง เสื้อกันฝนชนิดนี้ เป็นเสื้อกันฝนที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานครั้งเดียว ดังนั้นวัสดุที่ใช้ในการผลิตจึงไม่ใช่วัสดุที่คงทนอะไรมากมาย เป็นพลาสติกเนื้อบาง ฉีกขาดง่าย ระบายอากาศได้ไม่ดี มักจะถูกวางขายตามร้านสะดวกซื้อ ใช้ในยามฉุกเฉินเท่านั้น ไม่นิยมนำมาใช้ซ้ำ

2. เสื้อกันฝนแบบทั่วไป

เป็นประเภทของเสื้อกันฝนที่เห็นกันอยู่เป็นประจำ เป็นรูปแบบมาตราฐานที่ออกแบบมาเป็นอย่างดี เน้นความทนทาน พกพาสะดวก ส่วนใหญ่แล้วเป็นชุดแบบชิ้นเดียว สวมใส่ได้ทั้งตัว มีกระดุม ใส่ซ้ำได้ และสามารถป้องกันร่างกายจากฝนได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับพกพาติดกระเป๋าในช่วงหน้าฝน คอยช่วยซับพอร์ตในยามฝนตกแบบไม่ทันตั้งตัว

3. เสื้อกันฝนแบบคลุมทั้งตัว

ถ้าใครชอบดูหนังต่างประเทศน่าจะพอคุ้นตากับเสื้อกันฝนในรูปแบบนี้ เป็นเสื้อกันฝนขนาดใหญ่ที่ใส่แบบสวมคลุมลงมาได้ตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่ได้มีการเย็บช่วง มีความคล่องตัวมากเป็นพิเศษ ผู้ใส่จะมีความรู้สึกสบายในการขยับตัวไปมามากกว่าแบบทั่วไป เนื่องจากความใหญ่ของเสื้อกันฝน นอกจากนี้ยังสามารถคลุมทับกระเปาเป้ หรือกระเป๋าทำงาน ช่วยกันฝนได้ทั้งหมด

4. เสื้อกันฝนอย่างดี

คำว่าอย่างดีในที่นี้หมายถึงวัสดุที่ใช้ในการผลิตเสื้อกันฝนเป็นวัสดุอย่างดี แข็งแรง ทนทาน ได้รับการตัดเย็บมาเป็นอย่างดี มีการออกแบบที่สวยงามไม่มีการรั่วซึม ระหว่างสวมใส่ให้ความรู้สึกเหมือนใส่ชุดทับจากชุดเดิมไปอีก 1 ชุด สามารถใช้งานซ้ำได้ มีทั้งแบบที่เป็นเสื้อกันฝนแบบใช้ทั่วไป และเสื้อกันฝนแบบที่ใช้ในการปฏิบัติงาน เช่น งานจราจร หรืองานรักษาความปลอดภัย เป็นต้น

แนวทางในการเลือกเสื้อกันฝน

เลือกจากรูปแบบการใช้งาน

ดูว่าเราจะนำเสื้อกันฝนตัวนี้ไปในสถานการณ์ไหน ถ้าจะใช้ในกรณีเร่งด่วนเสื้อกันฝนแบบใช้แล้วทิ้งตอบโจทย์ที่สุด แต่ถ้าต้องการพกติดตัวซื้อเสื้อกันฝนแบบทั่วไปจะได้สะดวกในการพกพา หรือเสื้อกันฝนอย่างดีก็เหมาะสำหรับคนที่ต้องทำงานกลางฝน มั่นใจได้ ไม่มีการรั่วซึม

เลือกจากวัสดุที่ใช้ในการผลิตเสื้อกันฝน

อีกหนึ่งปัจจัยที่ควรนำมาพิจารณาก็คือ วัสดุที่นำมาผลิตเสื้อกันฝน โดยเราต้องเช็คให้แน่ใจว่าวัสดุดังกล่าวสามารถกันฝนได้จริงหรือไม่ ซึ่งโดยส่วนใหญ่เสื้อกันฝนจะผลิตจากโพลีเอสเตอร์ (Polyester) ไนลอน (Nylon) หรือไม่ก็ PVC ซึ่งล้วนแล้วมีคุณสมบัติกันน้ำได้พอสมควร

เลือกจากกระบวนการผลิต

ข้อนี้เป็นเรื่องของความแข็งแรง ความทนทานของเสื้อกันฝน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเราไม่อาจไปดูการผลิตทุกขั้นตอนได้ แต่เราสามารถดูได้จากรอยเย็บ รอยตะเข็บ การติดกระดุม หรือซิป ของเสื้อกันฝน ถ้างานเนี้ยบดีมีคุณภาพ ก็น่าจะพอทำให้มั่นใจได้เรื่องคุณภาพในการผลิต

เลือกจากระบายอากาศ

หน้าที่ของเสื้อกันฝนนอกจากกันฝนได้ดีแล้ว ก็ต้องระบายอากาศได้ดีด้วย ถ้าระบายอากาศได้ดี เหงื่อที่เกิดขึ้นในร่างกายก็จะมีน้อยลง สุขอนามัยในระหว่างการใช้งานก็จะดีขึ้น สวมใส่สบายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้การระบายอากาศจะช่วยให้ผู้สวมใส่ไม่ร้อนเกินไปด้วย

เลือกจากสี

สีเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่สมควรนำมาประกอบการพิจารณาในการเลือกเสื้อกันฝน เราควรที่จะเลือกสีของเสื้อกันฝนที่สามารถมองเห็นได้ง่าย มีสีสันสดใส เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในยามสวมใส่ คนขับรถบนถนนสามารถมองเห็นเราในง่าย แม้จะอยู่ในช่วงที่ทัศนวิสัยไม่ดีก็ตาม ส่วนใครที่ทำงานกลางแจ้ง ขับขี่จักรยาน หรือขับขี่มอเตอร์ไซค์ในยามค่ำคืน เสื้อกันฝนที่มีแถบสะท้อนแสงก็คือสิ่งที่จำเป็นต้องมี

ได้ทำความรู้จักเสื้อกันฝนแต่ละประเภท รวมไปถึงวิธีเลือกซื้อเสื้อกันฝนกันไปเรียบร้อยแล้วนะครับ หลังจากนี้ก็ไปเตรียมหาเสื้อกันฝนที่ถูกใจกันให้เรียบร้อย เพื่อรับมือกับหน้าฝน และรับสายลมแรงที่กำลังพัดพาพายุเข้ามาอีกหลายระลอกครับ

ขอบคุณภาพจาก: welovecycling.com, boss-inc.com, kathmandu.co.nz