ติดตั้งบานพับประตูอย่างไร ช่วยรับน้ำหนักประตูได้ดี

ประตูบ้านแต่ละบาน จำเป็นต้องอาศัยบานพับประตูคอยช่วยทำหน้าที่ยึดติดกับวงกบ เพื่อเป็นกลไกในการเปิด-ปิดประตู เรียกได้ว่าเป็นชิ้นส่วนเล็ก ๆ ที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก การจะติดตั้งประตูไม่สามารถขาดบานพับประตูไปได้โดยเด็ดขาด

ดังนั้น ในบทความนี้พี่ไทจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับบานพับประตูให้มากขึ้นกว่าที่เคย ตั้งแต่เรื่องประเภทของบานพับประตู การใช้บานพับให้ถูกวิธี การเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน รวมไปถึงเทคนิคในการติดตั้งบานพับ ที่จะมีส่วนช่วยเพิ่มความปลอดภัย เสริมสร้างความแข็งแรง และช่วยยืดอายุการใช้งานของบานพับได้อีกด้วย

ประเภทของบานพับประตู มีดังต่อไปนี้

1. บานพับผีเสื้อ

เป็นบานพับประตูที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี เพราะเป็นบานพับที่ได้รับความนิยมในการใช้งานมากที่สุด ส่วนที่มีชื่อเรียกว่าผีเสื้อนั้น ก็เป็นเพราะว่าลักษณะของบานพับมีความคล้ายกับผีเสื้อกางปีก บานพับประตูชนิดนี้มีวัสดุที่ใช้ในการผลิตหลากหลายชนิด เช่น สเตนเลส ทองเหลือง เหล็กชุบ สามารถเลือกจากวัตถุประสงค์ในการใช้งานเป็นหลัก ถ้าต้องการความทนทาน สเตนเลสหรือทองเหลืองก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดี ถ้าชอบความสวยงามเลือกเหล็กชุบก็จะได้สีสันที่สวยงาม แต่มีความเสี่ยงต่อการหลุดลอกของผิวชุบด้วยเช่นกันครับ

การติดตั้งบานพับผีเสื้อ ไม่ต้องเซาะวงกบ สามารถติดเข้ากับขอบประตูได้ทันที โดยปีกด้านหนึ่งยึดติดกับบานประตู ส่วนอีกด้านยึดติดกับวงกบ ส่วนตรงกลางเป็นแกนใช้หมุนไปมา เหมาะกับประตู PVC ,UPVC ประตูไม้อัด หรือประตูที่มีน้ำหนักเบาไม่เกิน 35 กิโลกรัม นอกจากนี้ในตัวบานพับยังมีจุดเล็ก ๆ ที่ไม่ควรมองข้าม นั่นก็คือแหวน ชิ้นส่วนสำคัญที่รองรับการหมุนของบานพับ ติดตั้งอยู่บริเวณรอยต่อของข้อบานพับ ซึ่งแหวนของบานพับประตูก็มีให้เลือกหลายชนิดเช่นเดียวกัน

• บานพับผีเสื้อแหวนพลาสติก ใช้กับประตูที่ไม่ค่อยได้เปิดใช้งาน ไม่เป็นสนิม ไม่มีเสียงรบกวน เวลาเปิดปิดเพราะแหวนทำจากพลาสติก

• บานพับผีเสื้อแหวนทองเหลือง ใช้ติดตั้งกับประตู หรือหน้าต่างที่ใช้เป็นประจำ มีความทนทานมากกว่าบานพับผีเสื้อแหวนพลาสติก เพราะทำจากทองเหลือง แต่หากใช้กับประตู หรือหน้าต่างที่ไม่ค่อยได้เปิดใช้งานบ่อยครั้ง อาจจะเกิดสนิม และเกิดความฝืดในการใช้งาน

• บานพับผีเสื้อแหวนสเตนเลส แหวนของบานพับชนิดนี้ทำจากสเตนเลสทำให้ตัดปัญหาเรื่องสนิมออกไปได้เลย นอกจากนี้ยังมีความทนทานมากกว่าทองเหลือง ซึ่งโดยส่วนมากแล้วบ้านพับชนิดนี้มักจะติดตั้งกับประตูในห้องน้ำ หรือบานหน้าต่างที่อาจต้องโดนฝนเป็นครั้งคราว

• บานพับผีเสื้อแหวนลูกปืน ประตูบานไหนที่มีน้ำหนักมาก เปิดเข้าเปิดออกบ่อยครั้ง ใช้แหวนลูกปืนจะดีที่สุด เพราะแหวนลูกปืนจะมีความลื่นมากเป็นพิเศษ แต่ก็ต้องแลกมากับราคาที่สูงขึ้น และมีโอกาสเกิดสนิมขึ้นได้เช่นเดียวกัน

บานพับประตูเหล็ก GIANT KINGKONG รุ่น 4320 (แพ็ก 3 ชิ้น) สีสเตนเลส

รายละเอียดสินค้า คลิก

2. บานพับประตูแบบซ่อนหรือบานพับข้อเสือ

เป็นบานพับประตูอีกประเภทที่ได้รับความนิยมไม้แพ้บานพับแบบผีเสื้อ โดยเฉพาะในบ้านยุคใหม่ที่ต้องการซ่อนบานพับไม่ให้เห็นเด่นชัด เกิดความสวยงามเนื่องจากมองไม่เห็นแกนบานพับเหมือนบานพับผีเสื้อ แต่ต้องแลกมากับความยุ่งยากในการติดตั้ง เพราะจำเป็นที่จะต้องฝังตัวบานพับกับบานประตู นอกจากใช้กับประตูบ้านแล้ว ยังนิยมใช้กับประตูเฟอร์นิเจอร์เพื่อให้เกิดความสวยงามอีกด้วย

บานพับซ่อนสเตนเลส 304 COLT รุ่น QZA 006 ขนาด 3 นิ้ว สีซาตินนิกเกิล

รายละเอียดสินค้า คลิก

3. บานพับสปริง

เป็นบานพับที่ใช้กับประตูเฉพาะทางอย่างประตูบานสวิง ซึ่งเป็นประตูที่สามารถเปิด – ปิด ได้ 2 ด้าน จะผลักออก หรือ ดึงเข้าหาตัวก็ได้ เช่น ประตูคาวบอย ประตูรั้วในสวนหลังบ้าน ลักษณะของบานพับชนิดนี้จะมีแกนกลางเป็นชิ้นส่วนสำคัญคอยบังคับเป็นแกนหมุนให้ประตูเปิดเข้าเปิดออก ส่วนแผ่นเหล็กจะทำหน้าที่ยึดประตู และผนังเข้าหากัน ทำให้สามารถเปิดสวิงไปมาได้ทั้ง 2 ด้าน นิยมใช้กับประตูไม้แท้ หรือประตูไม้ MDF

บานพับประตูสเตนเลสสปริงเปิด 2 ทาง SOLEX ขนาด 4 นิ้ว x 1.5 มม. สีสเตนเลส

รายละเอียดสินค้า คลิก

ข้อควรพิจารณาในการเลือกบานพับประตู

1. เลือกบานพับประตูให้เหมาะสมกับขนาด และน้ำหนักของประตู

เพื่อให้บานพับสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราจำเป็นที่จะต้องทราบขนาด และน้ำหนักของประตู ดังนั้นก่อนซื้อจึงจำเป็นที่จะต้องวัดขนาด และประมาณน้ำหนักของประตูให้เรียบร้อย ถ้าบานประตูมีขนาดใหญ่ อย่างเช่น ประตูหน้าบ้าน แนะนำให้ใช้บานพับผีเสื้อที่มีแกนใหญ่และปีกหนา เพื่อให้เหมาะสมกับขนาดของประตู

2. เลือกบานพับประตูจากวัสดุ

วัสดุที่ใช้ทำบานพับประตู ถ้าเป็นพลาสติกก็จะมีราคาถูก ถ้าเป็นเหล็กก็จะมีความแข็งแรง แต่เสี่ยงต่อการเป็นสนิม ถ้าเป็นทองเหลืองความเสี่ยงในการเป็นสนิมจะลดน้อยลง แต่ราคาจะสูงกว่าเหล็ก ส่วนสเตนเลสจะมีให้เลือก 2 ประเภท ได้แก่ สเตนเลส 202 ราคาถูก ทนสนิมได้ดีกว่าเหล็ก และสเตนเลส 304 แข็งแรงกว่า 202 ทนทานต่อการเกิดสนิม

3. เลือกบานพับประตูจากความสวยงาม

ข้อนี้เป็นเรื่องของรูปแบบการดีไซน์ และความสวยงาม ถ้าเป็นเรื่องความสวยงามในการติดตั้งแล้ว บานพับแบบซ่อนน่าจะเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์มากที่สุด แต่อาจจะต้องแลกมากับราคาที่สูงขึ้น และการติดตั้งที่มีความยุ่งยาก ต้องใช้ช่างที่มีความสามารถเฉพาะทาง

การติดตั้งบานพับประตู

หลังจากเลือกบานพับประตูได้แล้ว สิ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้กันก็คือการติดตั้ง โดยหัวใจสำคัญก็คือการเฉลี่ยน้ำหนักของประตูกับบานพับให้พอดีกัน เช่น ประตูไม้น้ำหนักจะอยู่ที่ประมาณ 20 กิโล/ บาน เราต้องทำการเฉลี่ยน้ำหนัก จะปล่อยให้บานพับ 1 ตัว รับน้ำหนักประตูทั้งหมดไม่ได้ ดังนั้น การติดตั้งบานพับประตู ควรใช้บานพับอย่างน้อย 3 ตัว โดย 2 ตัวบน จะช่วยในการรับน้ำหนักของประตู ส่วนบานพับตัวล่างจะช่วยพยุงประตูในระหว่างการเปิดปิดประตู ซึ่งไม่จำเป็นต้องติดบานพับในระยะห่างที่เท่ากันครับ ยกตัวอย่างเช่น

ประตูมีความสูงอยู่ 200 ซม. ความกว้าง 80 ซม. ความหนา 3.5 ซม. มีน้ำหนักประมาณอยู่ 20 กก. จากขนาดของประตูเราจะใช้บานพับผีเสื้อ ขนาด 4 นิ้ว x 3 นิ้ว ทั้งหมด 3 ชิ้น ซึ่งจะมีตำแหน่งในการติดตั้ง ดังนี้

1. บานพับชิ้นที่ 1 และบานพับชิ้นที่ 2 ให้ติดไล่ลงจากขอบบานประตูด้านบน ห่างกันประมาณ 15 ซม.

2. บานพับประตูชิ้นที่ 3 ติดสูงขึ้นมาจากขอบบานประตูด้านล่าง ประมาณ 15 ซม.

3. กรณีที่ประตูมีน้ำหนักมากให้ติดตั้งบานพับชิ้นที่ 4 ตรงกึ่งกลางระหว่างบานพับตัวที่ 2 และตัวที่ 3 เป็นการเสริมความแข็งแรง

นี่คือเทคนิคง่าย ๆ ที่ใช้ในการติดตั้งบานพับประตู ซึ่งสำหรับใครที่ไม่เคยติดตั้งบานพับประตูมาก่อน พี่ไทแนะนำให้ปรึกษาช่างผู้มีความเชี่ยวชาญก่อนการติดตั้งจะดีกว่า โดยนำข้อมูลตรงนี้ไว้ใช้ประกอบการพูดคุย เพื่อสร้างความปลอดภัยในระยะยาวในการใช้งานครับ

ขอบคุณภาพจาก: uswindow-door.com, bellevuearch.com.au, pinterest.com, tdchinges.com, tmhardware.com